จ้าง Software House vs จ้างฟรีแลนซ์: เปรียบเทียบแบบเข้าใจง่ายสำหรับผู้ว่าจ้าง

11 September 2025 | codeengine
Developerdevops-engineerQuality Assurance
Share:
จ้าง Software House vs จ้างฟรีแลนซ์: เปรียบเทียบแบบเข้าใจง่ายสำหรับผู้ว่าจ้าง

ตารางเทียบเร็ว

Screenshot_1.png

________________________________________


ความเหมือน (ที่ควรถามให้ชัด ไม่ว่าเลือกทางไหน)

1. ขอบเขตงาน (Scope) และเป้าหมายธุรกิจ

2. กำหนดส่ง & Milestone ที่ตรวจรับได้

3. เจ้าของสินทรัพย์ทางปัญญา (IP) และสิทธิ์ในซอร์สโค้ด/ดีไซน์

4. ความปลอดภัยของข้อมูล (การเข้าถึง/เก็บ/ลบ/เข้ารหัส)

5. งบประมาณและรูปแบบการคิดเงิน (Fixed price, Time & Materials, Retainer)

6. ช่องทางสื่อสาร & จังหวะอัปเดตงาน (รายสัปดาห์/ราย Sprint)

________________________________________


ความแตกต่างเชิงลึก

1) การจัดการโครงการ

• Software House: มี PM/BA กำกับ, ใช้ Agile/Scrum/Kanban, สถานะงานโปร่งใส (บอร์ด/เบิร์นดาวน์)

• ฟรีแลนซ์: ผู้ว่าจ้างต้องทำหน้าที่ PM บางส่วน (จัดลำดับงาน ตัดสินใจ Trade off) เว้นแต่จะจ้าง PM เพิ่ม

2) คุณภาพซอฟต์แวร์ & การทดสอบ

• Software House: มี QA, Code Review, Automated Test, CI/CD, Environment แยก Dev/Staging/Prod

• ฟรีแลนซ์: ต้องระบุในสัญญาว่าจะมี Unit/E2E Test, Code Review, และเกณฑ์รับงานอย่างไร

3) ความปลอดภัย & คอมพลาย

• Software House: คุ้นเคยมาตรฐานเช่น OWASP, ISO 27001, SOC 2, มีแนวทาง DevSecOps

• ฟรีแลนซ์: ทำได้แต่ต้องกำหนดข้อกำหนด/Checklist และตรวจรับให้ชัด

4) ความต่อเนื่องระยะยาว

• Software House: มีเอกสาร/คู่มือ/ฮันดโอเวอร์ และทีมซัพพอร์ตต่อเนื่อง

• ฟรีแลนซ์: ต้องวางแผนโอนย้ายความรู้ (Knowledge Transfer) และสำรองคนเผื่อฉุกเฉิน

5) ต้นทุนทั้งหมด (TCO)

• Software House: ค่าเรตสูงกว่า แต่รวม PM/QA/Infra ops บางส่วน → ลดงานแฝงของทีมคุณ

• ฟรีแลนซ์: ค่าเรตต่อชั่วโมงต่ำกว่า แต่ผู้ว่าจ้างต้องแบกบางส่วน (PM/QA/สคริปต์ดีพลอย/มอนิเตอร์)

สูตรคิดง่าย ๆ (ประมาณการ):

TCO ≈ ค่าแรงพัฒนา + ค่า PM/QA + ค่าโฮสติ้ง/เครื่องมือ + ค่าแก้บั๊กหลังส่งมอบ + ค่าเสี่ยง (ดีเลย์/คนหาย)

________________________________________


เลือกแบบไหน: ใช้กรอบตัดสินใจนี้

• เลือก Software House ถ้า:

o มีหลายระบบต้องเชื่อมต่อ (ERP/CRM/Payment/IoT)

o งานต้องผ่านการตรวจสอบ/คอมพลาย (เช่น ข้อมูลการเงิน/สุขภาพ)

o ต้องการ Roadmap และการดูแลต่อเนื่อง 12–36 เดือน

o ทีมคุณไม่มี PM/QA/DevOps ภายใน

• เลือกฟรีแลนซ์ ถ้า:

o เป็นโปรเจกต์ MVP/PoC ระยะสั้น 4–12 สัปดาห์

o ขอบเขตชัดเจน หน้าจอไม่ซับซ้อน และความเสี่ยงยอมรับได้

o ต้องการเริ่มเร็ว งบจำกัด และคุณมีเวลาช่วยตัดสินใจ/ทดสอบ

• แบบไฮบริด ถ้า:

o อยากคุมงบ แต่ยังอยากได้วินัยของทีม → จ้างฟรีแลนซ์ + PM/QA part time

o เริ่มจากฟรีแลนซ์ พอ Product Market Fit ค่อยโอนไป Software House หรือทีมถาวร

________________________________________


รูปแบบสัญญา & การคิดเงิน

• Fixed Price: ราคาตายตัว เหมาะกับขอบเขตนิ่ง มีเอกสารชัด → เสี่ยงเปลี่ยนสcopeแล้วแพง

• Time & Materials (T&M): คิดตามชั่วโมง/วัน เหมาะกับงานที่ต้องลองผิดลองถูก → ต้องคุมความคืบหน้าเข้ม

• Retainer / Support Plan: รายเดือนเพื่อดูแล/ปรับปรุง/มอนิเตอร์ระบบหลังขึ้นจริง

แนะนำ: PoC (T&M) → ระบุ Scope ชัด → เฟสพัฒนา (Fixed Price + Milestone) → สัญญาดูแลรายเดือน

________________________________________


เกณฑ์รับงาน (Definition of Done)

• ฟีเจอร์ตาม scopeใช้งานได้ครบ, ผ่าน User Acceptance Test (UAT)

• มีเอกสาร: วิธี Deploy, คู่มือผู้ใช้, คู่มือแอดมิน, แผนสำรองข้อมูล/กู้คืน (Backup/Recovery)

• มีชุดทดสอบ และบันทึกผลการทดสอบ

• มีแผนซัพพอร์ตหลังส่งมอบ/ระยะเวลารับประกันชัดเจน

________________________________________


ตัวอย่างประมาณการ (สมมติ)

• แอปเว็บ MVP 8 หน้าจอ + ล็อกอิน + ชำระเงิน

o Software House: 10–14 สัปดาห์, ทีม 5 บทบาท (PM/UX/FE/BE/QA), งบ X–Y บาท, รวม QA/ดีพลอย/มอนิเตอร์เบื้องต้น

o ฟรีแลนซ์: 6–10 สัปดาห์, 1–2 คน, งบ ~60–75% ของ Software House แต่ผู้ว่าจ้างต้องช่วย PM/ทดสอบ/จัดการโฮสติ้ง

ตัวเลขขึ้นกับความซับซ้อน เทคโนโลยีที่เลือก และการผสานระบบภายนอก

________________________________________


FAQ

จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้รับจ้าง “ดี” จริง? – ดูพอร์ตงาน/ลูกค้าอ้างอิง, ทดลองงานเล็ก (Spike/PoC), ประเมินคุณภาพสื่อสารและความเป็นระบบ

ถ้าเริ่มกับฟรีแลนซ์แล้วอยากย้ายไป Software House? – ระบุสิทธิ์ IP เก็บโค้ดใน Git ของคุณเอง, บังคับเอกสาร/คู่มือ, ทำฮันดโอเวอร์เป็น Milestone หนึ่ง

ควรใช้เครื่องมืออะไรช่วยโปร่งใส? – บอร์ดงาน (Jira/YouTrack/Trello), รีโปโค้ด (GitHub/GitLab/Bitbucket), CI (GitHub Actions/GitLab CI), สื่อสาร (Slack/Teams), มอนิเตอร์ (Sentry/Datadog)

________________________________________


สรุป

• ถ้าคุณต้องการ ความครบวงจร ความเสถียร และมาตรฐาน → ควรไปทาง Software House

• ถ้าคุณต้องการ ความเร็ว ประหยัด และขอบเขตชัด → ควรไปทาง ฟรีแลนซ์


บทความที่เกี่ยวข้อง